หลังจากที่เป็นคุณแม่เลี้ยงลูก ตอนนี้เจ้าตัวก็หวนคืนวงการบันเทิงอีกครั้งแล้ว สำหรับ ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ ที่ตอนนี้เจ้าตัวเตรียมมารับเล่นในซีรี่ส์เรื่อง “Mother…เรียกฉันว่าแม่” งานนี้พอมีโอกาสได้เจอต่ายในงานบวงสรวง จึงขอถามความคืบหน้าที่เจ้าตัวเซ็นใบหย่ากับ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เสียหน่อย
รับซีรีส์แล้วแบ่งเวลาดูแลน้องพิพิมยังไง?
เราก็จะรับเฉพาะวันที่น้องไม่อยู่ค่ะ ตอนนี้ก็คือเลี้ยงเยอะ แต่ว่าเอาวันที่เขาไม่อยู่ คือเวลาให้คิวก็เฉพาะตอนที่น้องไม่อยู่ด้วย ก็จะไม่ค่อยมีวันให้เขา เพราะอย่างกองหนัง เขาก็บอกว่าคิวเรายากมากเลย ไม่ค่อยมีเวลา “ก็ไม่เกี่ยว มันก็เป็นเหมือนตามความเหมาะสมค่ะ ถามว่ารู้สึกยังไงบ้างที่ได้อยู่กับลูกมากขึ้น มากกว่าก่อนหน้านี้ ก็คือยังไงก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ดีแหละเวลาที่เขาไม่อยู่ เพราะว่ายังไงแม่ก็จะต้องดู ลงดีเทลทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเวลาที่เขาอยู่ หรือถ้าไม่อยู่ เราก็พยายามฝากโน่นนี่ให้ครบตามในเรื่องที่เราเป็นห่วงค่ะ”
ก็อย่างพวกเชื้อโรค ซึ่งเราเป็นห่วงมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งทวีคูณ ยิ่งเรื่องฝุ่นเราก็เป็นห่วงในเรื่องของมลภาวะ อยากให้พกเครื่องฟอกอากาศในวันที่อากาศไม่ดี อยู่ในบ้านก็อย่าเปิดหน้าต่าง เปิดเครื่องกรอง อย่างเรื่องเครื่องกรองอากาศเราก็ใช้แบบดีที่สุดอยู่แล้ว ถ้าเกิดไปอยู่ในที่ที่เครื่องไม่โอเค เราก็จะกังวลค่ะ
ก็ยังอยากให้เป็นเรื่องในกระบวนการ ไม่อยากลงรายละเอียดค่ะ ถามว่าสบายใจขึ้นมั้ยในช่วงเวลาที่ผ่านมา จริงๆ มันก็สบายใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วแหละ หมายถึงว่าตั้งแต่แรกเริ่มที่มีเรื่อง มันก็ดี ทุกอย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็เหมือนเดิม คุยเรื่องลูกค่ะ เราก็เหมือนไปตามธรรมชาติ ไม่ได้ติดใจอะไร หมายถึงเราไม่ได้โกรธ ทำทุกอย่างออกมาจากใจ ทุกอย่างต้องพูดตามความจริง ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว เพราะถ้าเราปิดบัง แน่นอนเขาก็ต้องปิดบังเรา ต้องเลี้ยงให้เขาเป็นเพื่อนสนิทของเราค่ะ เขาบอกเราได้ทุกเรื่อง เราก็บอกเขาได้ทุกเรื่อง รอเวลาแค่ให้น้องถาม ถ้าเขาอยากรู้อะไรก็ยินดีที่จะเล่าอยู่แล้ว
ใช่ๆ เป็นรายการ Rabbit on the Moon ค่ะ มีมูเตลู เป็นรายการที่เหมือนเราพาชิม พาเที่ยว ก็พาไปไหว้พระบ้าง ดูฮวงจุ้ย อะไรที่เป็นสายมู รู้สึกว่าคนเราเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเฮงด้วย ไม่งั้นทำไมบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัทถึงได้มีซินแส มีการทำพิธี ถ้าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ค่ะ แต่เราก็ต้องใช้วิจารณญาณในการทำด้วย อย่างมงาย เราทำบนหลักวิทยาศาสตร์ ทำแล้วได้มั้ย ที่นี่ทำแล้วเป็นยังไง ผลเป็นยังไง ดูแล้ววิเคราะห์ไปด้วย
จริงๆ อย่างที่บ้านก็จะเป็นสายทำบุญตลอด ตั้งแต่อยู่ในท้อง คุณพ่อจะเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่เราอยู่ในท้อง ก็จะมาทำสังฆทานที่วัดนี้ ทำตลอด มาทุกเดือน ก็จะวนเวียนอยู่กับการทำบุญทำทาน ใช่ ถ้าทำอะไรที่เป็นสิ่งที่ดี ก็ต้องได้รับอะไรที่ดีๆ แต่ทำบนพื้นฐานความไม่งมงายนะ อย่างฮวงจุ้ยก็เป็นหลักวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เหมือนเป็นการเก็บสถิติว่าบ้านนี้ทำแบบนี้แล้วมันดี ก็กลายเป็นตำราขึ้นมาค่ะ
ใจสั่น!! หลิน มชณต ม้วนผมสุดเซ็กซี่
ทำเอาหลายคนฮือฮา แถมหนุ่มๆ ยังใจสั่นกันยกใหญ่ หลังจากที่ หลิน มชณต สุวรรณมาศ นางแบบและนักแสดงหญิงชื่อดัง ได้โพสต์รูปลงอินสตาแกรม ซึ่งเป็นภาพขณะที่ตนกำลังหนีบผมและม้วนผมอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของเหล่าคุณผู้หญิงทั้งหลาย แต่ประเด็นอยู่ที่ชุดที่เจ้าตัวใส่นี่แหละ
งานนี้บอกเลยว่า แทบจะไม่มีใครโฟกัสการม้วนผมของเจ้าตัว เพราะท่าโพสก็ยังปัง ราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารถ่ายแบบ แถมชุดที่เจ้าตัวใส่เป็นชุดแขนยาวสีเทารัดรูป และสวมกางเกงชั้นในแบบสปอร์ต เผยให้เห็นหุ่นสุดเพรียว โดยหลินลงไปนั่งคุกเข่าอยู่หน้ากระจกขณะม้วนผม แถมสไตล์ต่างๆ ก็ยังลงตัวไปหมด
ขอบอกเลยว่าหลินเซ็กซี่มากจริงๆ หลังจากที่ลงรูปไปก็มีทั้งชาวเน็ต และเพื่อนๆ เข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก ทั้ง แพ้ละ, อยากทำอะไรแบบนี้ละสวยแบบนี้ 555555555555, มันน่านักกก, เกินเรื่อง, เอาไม้เรียวมาตี!, ที่สุดแล้วไหม ไม้เรียวอยู่หนัยยย, ดีย์, แซ่บมากลูกเอ๊ยยย แต่บ่อยๆ โดนตีแน่, ใจละลายมากพี่หลิน, เรานะเราอะ, เผ็ชเกินเบอร์แล้วหลินปุงงง ฯลฯ
ไม่ใช่ เวลาเราสร้างคนก็ต้องใช้เงินในการสร้าง จ่ายค่าตัวโปรโมท เขียนเชียร์โน่นนี่ ถ้าจะเอาสัญญาคืนก็เอาเงินมา 3 ล้าน เพราะยังเหลือสัญญาอีก 3 ปี ก็ปีละล้าน มันไม่ใช่สัญญาโหดหรือสัญญาทาส สัญญาตัวนี้เหมือนกันกับทุกบริษัท ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว ดาราคนอื่นเวลาเขาฉีกสัญญาก็ต้องจ่ายเงิน”
ตอนนี้มันสายไปแล้ว มันไปถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ตอนแรกทำไมไม่คิดว่าเขาคบกับผมมา 7 ปี หมายถึงทำงานด้วยกันมา 7 ปี น่าจะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง ผมเป็นคนใจดีนะ ไม่ได้ใจโหดใจร้าย เราไม่ได้ทวงบุญคุณนะ แต่เรามีพระคุณกับเขาแล้วเขามาทำกับเราอย่างนี้
ผมกับเขาไม่มีอะไรกัน ยังคุยกัน แต่ตอนหลังๆ ผมไม่คุยแล้ว เหมือนที่บอกผมไม่ได้โกรธ แต่ไม่รู้จะคบทำไม คบแล้วปวดหัว ก็ไม่คบดีกว่า ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ก่อนมีปัญหาเขาก็โทรมาบอกผม ผมกล้ายืนยันว่าเขาส่งข้อความมาหาผม ผมไม่ได้โทรไปหาเขา เพราะผมไม่จำเป็นต้องโทรหาเขา เขาส่งมาบอกว่านายคนนี้มาจีบเขา พี่พชร์ว่ายังไง ก็บอกว่าแล้วแต่เธอ อย่ามาให้ยุ่งเรื่องแบบนี้เลย เขาเข้ามาถามผมในไลน์เลย เพราะตอนนั้นเขามาเล่นหนังให้ผม สนิทกันตั้งนานแล้ว
แล้วผมก็โทรหาเด็กว่าเขาบอกแบบนี้จริงมั้ย เด็กก็บอกว่าจะให้ทำยังไง ก็ผมรักเขา เราก็บอกว่ารักก็รักไป แต่อย่าทำให้เสียงาน แล้วอย่าเอาเรื่องนี้มาใส่หูฉันอีก เพราะขี้เกียจฟัง มันผ่านมา 2 ปี เขาก็คบกันอยู่ ผมก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับเขา ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกับเขา ตอนนั้นพ่อฝ่ายหญิงไม่สบาย เขายังโทรมาบอกว่าพี่พชร์ขอยืมเงิน 5 หมื่นไปรักษาพ่อ เราก็บอกให้เอาเลขที่บัญชีมาแล้วก็โอนให้เลย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป